
ปาฏิหาริย์เหล่านี้ ก็มาจากการที่ท่านเหล่านั้น
มีจิตเป็นกุศล หมั่นสวดคาถาบูชาดวงชะตาค่ำ-เช้า สวดมนต์ภาวนา
หมั่นทำบุญ บริจาคทาน สมาทานศีล 5 ไม่ขาดตกบกพร่อง มีสัจจะวาจา
ผลแห่งสัจจะอฐิษฐานก็จะต้องสำเร็จผลในทุกๆคน ไม่มียกเว้น
---
ดวงพิชัยสงคราม...คือดวงชะตาที่ถูกผูกขึ้นอย่างละเอียดที่สุด
แบบจักรราศีซึ่งดวงพิชัยสงครามนี้อาจจะเป็นดวงชะตาของบุคคล
หรือดวงฤกษ์ในการกระทำการต่างๆอย่างใดอย่างหนึ่งได้
---
รวมศาสตร์ทั้งสามคือ พุทธศาสตร์ ไสยศาสตร์ และ โหราศาสตร์
กำหนดรูปดวงชาตานี้ขึ้น โดยการนำเอาพุทธมนต์มาชัยเป็นพระคาถากำบังดวงชาตาไว้
--------
ในสมัยก่อนนั้นผู้ที่จะมีดวงพิชัยสงครามได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลระดับชั้นแม่ทัพ
หรือเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ขึ้นไปตลอดจนกระทั่งระดับพระมหากษัตริย์
สามัญชนธรรมดาหาอาจมีดวงพิชัยสงครามได้ไม่
เพราะดวงนี้จะหาคนผูกเป็นได้ยากมากอีกทั้งใช้เวลาในการคำนวณมาก
ระดับโหรชั้นอาจารย์ยังต้องใช้เวลาในการคำนวณถึง ๗ วัน
จึงจะสำเร็จดังนั้นจึงจะค่อนข้างหาผู้ที่มีดวงพิชัยสงครามได้ยากมากในปัจจุบัน
--------
--------
ลักษณะของดวงพิชัยสงคราม
๑.กำหนดให้ดวงราศีจักรอยู่กึ่งกลางยันต์พิชัยสงครามด้านบนของกระดาษใต้พระพุทธฉาย
๒.ใต้ยันต์พิชัยสงคราม จัดเป็นยันต์รูปบัลลังก์ อยู่กลางกระดาษและทำเป็นยันต์ลดหลั่นกันลงมา ๕ ชั้น
๓.เบื้องซ้ายชั้นล่างสุด ของยันต์รูปบัลลังก์เป็นหลักอินทภาส
เบื้องขวาเป็นหลักบาทจันทร์ซึ่งหลักทั้งสองนี้โบราณยกย่องว่ามีความสำคัญสูงท่านจึงให้สถิตย์ภายใต้เศวตฉัตร
๔.กรอบของยันต์พิชัยสงครามมีพระคาถาพระเจ้าสิบหกทิศปิดไว้ทุกทิศ
๕.ยันต์พิชัยสงครามทำล้อมกรอบดวงราศีจักร เพื่อให้คุ้มครองดวงชะตา
มิให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาแพ้วพานได้พระคาถาที่บรรจุในยันต์พิชัยสงครามนี้ ก็คือ
"พระอิติปิโสย่างตาม้า" และสำหรับทิศแม่ธาตุทั้งสี่ของดวงพิชัยสงคราม
อันได้แก่ทวารทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลมไฟ จะมีคาถา นะ มะ พะ ทะ ปิดไว้
ส่วนตามมุมต่างๆของดวงพิชัยสงครามเฉพาะที่ยันต์พิชัยสงครามมีช่องโหว่อยู่ ๑๖ ช่อง
ก็ได้บรรจุพระคาถาพระเจ้าสิบหกทิศปิดไว้ทุกช่องโดยพระ คาถาดังกล่าวนี้คือ
"นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง"
๖.พระอิติปิโสแปดทิศกรอบนอกของดวงพิชัยสงครามได้บรรจุสิ่งศักสิทธิ์
ป้องกันภัยพิบัติไว้ทั้งแปดทิศด้วยกันซึ่งก็คือพระคาถาอิติปิโสแปดทิศ
๗.พระคาถาอื่นๆนอกจากพระคาถาดังกล่าวแล้วในดวงพิชัยสงคราม
ยังอาจจะบรรจุพระคาถาอื่นๆลงไปได้อีกเช่นพระนวหรคุณเก้า,
หัวใจพระอภิธรรมหรือพระธรรมเจ็ดคัมภีร์, พุทธรักษา, ธรรมรักษา, สังฆรักษา,
ปิตารักษาและอินทรักษา, พรหมรักษา, เทวดารักษา, มาตารักษาเป็นต้น
--------จะเห็นได้ว่าการจัดสร้างดวงพิชัยสงครามขึ้นมาดวงหนึ่งนั้น
จะต้องใช้เวลาและความรู้ความสามารถเป็นอย่างสูง
อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึง พระคาถาที่จารึกในดวงพิชัยสงคราม
จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า
ดวงพิชัยสงครามจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ให้ทำหน้าที่ คุ้มครองรักษาเจ้าของดวงชะตา
ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ
ดังนั้นถ้าผู้ใดมีดวงพิชัยสงครามเป็นของตัวเอง
ก็จงหมั่นบูชาและภาวนาคาถาบูชาดวงชะตา
ค่ำ-เช้า เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง...

เป็นดวงชะตาที่มีความสำคัญมากในระบบโหราศาสตร์ไทย
นับเป็นยันต์อันศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นยันต์ดวงที่ได้รับการคำนวณ
จากผู้รู้และผู้ที่มีความรอบรู้ อย่างแตกฉานในเรื่องการคำนวนดวงนี้โดย
ใช้ วัน-เดือน-ปีเกิด-เวลาเกิดหรือผู้เขียนบางท่านใช้ถึงสถานที่เกิด
และบ้านที่เกิดของผู้ที่เป็นเจ้าของดวงนี้ ถือว่าผู้เขียนคนนั้นละเอียดมาก
แต่สมัยปัจจุบันนี้หาผู้ที่เขียนยันต์นี้หายากมาก ผู้เขียนแผ่นดวงพิชัยสงครามนี้
จะใช้หลักเกณฑ์การเขียนตามกฏเกณฑ์ในคัมภีร์สุริยยาตร์
คัมภีร์มานัตต์ ซึ่งเป็นคัมภีร์หลักในวิชาโหราศาสตร์
-----------------
ภายในดวงพิชัยสงครามนี้มีการแจ้งเลขเกณฑ์อันเป็นผลที่ได้จาก
การคำนวณในแต่ละขั้นตอนของคัมภีร์ไว้ในตาราง เช่น ตำแหน่งดาวพระเคราะห์
สมผุส ฤกษ์ และมัธยมพระเคราะห์ ตลอดจนอัตตา เกณฑ์การคำนวณต่างๆ
ที่สำคัญโดยแต่ละดวงชะตาผลการคำนวณจะแตกต่างกัน
เพราะใช้วันเดือนปี เวลาเกิด ตั้งต้นคำนวณ นอกจากโหราศาสตร์
ในดวงพิชัยสงคราม ยังมี พุทธศาสตร์ ไสยศาสตร์
และประกอบรวมกันขึ้นเป็นยันต์อันศักดิ์สิทธิ์ โดยมีการเขียนอักขระ
คาถาต่างๆ ล้อมรอบไว้ในดวงชะตาด้วย
-----------------
การทำดวงพิชัยสงครามนี้ อาจารย์ท่านว่าหากทำไว้ จะให้คุณอยู่สองนัย คือ
๑. มหาอุตม์ เป็นการป้องกันเคราะห์ร้าย แคล้วคลาดปลอดภัย
ภยันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
๒. มหาลาภ เป็นการทำให้มีผลหรือมีความสำเร็จ เป็นศิริมงคล
ประสบพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ไม่ตกต่ำ ไม่ขัดสน
-----------------
เมื่ออดีตกาลนานมาแล้ว วันเวลาได้ล่วงมาจนถึงครั้งหนึ่ง
บ้านเมืองได้เกิดความระส่ำระสาย ด้วยข้าวยากหมากแพง
เพราะดินฟ้าอากาศวิปริต ฝนไม่ต้องตามฤดูกาล
ประชาชนพลเมืองได้รับความเดือดร้อน อดอยากถึงกับต้องปล้นสะดมกันกิน
ในการครั้งนั้น ทางฝ่ายข้าศึกเห็นว่าเป็นโอกาสอันเหมาะดีที่จะยึดครองบ้านเมืองได้โดยง่าย
จึงได้เคลื่อนกำลังทัพมาประชิดเมืองไว้ ในยามนั้น ก็ก่อความประหวั่นพรั่นกลัว
แก่บรรดาประชาชนพลเมือง และเสนาข้าราชการเป็นยิ่งนัก
ความเห็นส่วนใหญ่ของประชาชนได้ลงมติว่าควรจะยอมแพ้แก้ข้าศึกเสียดีกว่า
เพื่อจะได้ถนอมชีวิตข้าคนพลเมืองเอาไว้ แต่ทว่าทางฝ่ายทหารและนักรบส่วนใหญ่
ยังมีหัวใจเปี่ยมด้วยเลือดและวิญญาณของนักรบที่หยิ่งในศักดิ์ศรี
และมีความหวงแหนอธิปไตยชาติบ้านเมือง ฝ่ายทหารจึงต่างพากันคัดค้าน
ความเห็นไม่ควรยอมแพ้แก่ข้าศึกอย่างแข็งขัน โดยทหารทุกคนยินดีจะยอมตาย
ยึดถืออุดมคติว่า "ตัวตายดีกว่าชาติตาย"
-----------------
องค์พระประมุขทรงเห็นชอบและสนับสนุนความคิดเห็นทางฝ่ายทหาร
และเพื่อเป็นการบำรุงขวัญกำลังใจทหาร พระองค์ได้ทรงมีพระราชโองการ
ให้โหรหลวง จัดทำดวงชาติให้แก่แม่ทัพนายกองที่จะต้องทำหน้าที่
คุมกำลังป้องกันชาติบ้านเมืองในครั้งสำคัญครั้งนี้ทุกคน
นำไปรักษาบูชาไว้ในพระนคร ซึ่งนิยมกันว่าศักดิ์สิทธิ์และเป็นของสูง
คู่ควรบูชาไว้แต่เฉพาะพระมหากษัตริย์เท่านั้น
-----------------
ครั้งนั้นการรบได้ดำเนินไปในสภาพที่ด้อยกว่าข้าศึกทั้งกำลังคน
และกำลังอาวุธ ผลจึงปรากฏว่า ในการประจัญบานแต่ละครั้ง
ทหารหาญที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งลดน้อยถอยตัวลงไปอีกทุกครั้ง
เพราะถูกลิดรอนทำลายลงด้วยกำลังของข้าศึกที่มีเหนือกว่าอยู่เรื่อย ๆ
จนกระทั่งความหวังที่พอมีอยู่บ้างในตอนต้นก็ทลายหายไปหมด
ทหารทุกคนทุกหัวใจ ต่างก็มีแต่ความทอดอาลัยและรอคอยแต่ว่า
เมื่อไรข้าศึกจะโหมกำลังเข้ามาบดขยี้ ทำลายให้สิ้นชาติสิ้นความเป็นไทยไปเท่านั้น
-----------------
ครั้งแล้ว ก่อนนาทีสุดท้ายจะมาถึง สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดถึงก็ได้ปรากฏ
ถึงเสียก่อนนั่นคือ เกิดความวิปริตท้องฟ้าและอากาศเกิดมหาวาตะอย่างรุนแรง
พร้อมกับมีฝนกระหน่ำลงมาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ติดต่อกันอยู่ถึง ๓ วัน ๓ คืน
จนกระทั่งน้ำเอ่อท่วมท้นสูงขึ้นถึงคอ เมื่อพายุและฝนสงบลงแล้ว
ต่างคนต่างก็ได้เห็นภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นก่อนแต่อย่างใด
ภาพนั้นคือภาพค่ายทหารของข้าศึกพินาศภินทนาการไปหมดแล้ว
ด้วยอำนาจของลมพายุและกระแสน้ำ ช้าง ม้า และเหล่าทหาร
ก็พลอยสูญชีวิตไปด้วยเป็นจำนวนมาก ที่ยังเหลือชีวิตก็อยู่ได้แต่
ตะเกียกตะกายเพื่อให้รอดพ้นได้เพียงแต่ตัว
ไม่มีใครมีกะจิตกะใจจะรบเอาชัยต่อไป
หรือคิดห่วงใยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จมหายอยู่ภายใต้น้ำอีกเลย
-----------------
ในการที่บ้านเมืองรอดพ้นจากเงื้อมมือข้าศึกมาได้อย่างปาฏิหาริย์
พร้อมด้วยแม่ทัพนายกองและทหารประสพชัยชนะอย่างอัศจรรย์
ทางฝ่ายข้าศึกก็ประสพความพิบัติกลับไปอย่างยับเยินในครั้งนั้น
-----------------
ฉะนั้นจึงเป็นที่เชื่อถือกันว่า
เนื่องจากอานุภาพแห่งการปฏิบัติบูชาดวงชะตา
ที่คำนวณบรรจุไว้ในมหายันต์พุทธมนต์นั้นโดยแท้
พระมหากษัตริย์ได้ทรงถือเอาเหตุมงคลครั้งนั้น
มาพระราชทานนามแก่ดวงชะตานี้ว่า "ดวงพิชัยสงคราม"
นับแต่กาลครั้งนั้นมา ดวงพิชัยสงคราม ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนา
ที่ต่างคนต่างก็พยายามขวนขวายหาผู้ที่เขียนแผ่นดวงพิชัยสงครามนี้ได้
เพราะแผ่นดวงพิชัยนี้เป็นของสูงค่ามาก เพื่อเอาไว้บูชาเป็นศิริมงคล
แก่ตนเพราะเชื่อถือกันว่ามีอิทธิพลทั้งในเมตตามหานิยม
และทางป้องกันภยันตรายต่าง ๆ แก่เจ้าชาตาผู้ยึดมั่นในการปฏิบัติบูชา
ในปัจจุบันมีการสร้างวัตถุมงคล,เครื่องรางที่เป็นของคณาจารย์ต่างๆ
ได้นิยมนำ"ดวงพิชัยสงคราม"นี้เข้าไปเป็นส่วนร่วมในการสร้างวัตถุมงคล
และเครื่องรางนั้นๆอีกด้วย หรือบางคณาจารย์นำดวงพิชัยสงครามนี้
เข้าไปหลอมเป็นชนวนโดยใช้ วันหล่อ วันปลุกเสก
หรือวันสำคัญต่างๆที่ดีก็ได้ เพียงรู้วัน เวลา
ที่จะทำพืธีมงคลนั้นๆก็เพียงพอกับการคำนวนควงพิชัยสงครามนั้น
บางท่านเขียนบรรจุไว้ในก็มีแล้วแต่ขั้นตอนของแต่ละคณาจารย์
ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีมากเป็นอย่างยิ่ง
-----------------
ดวงพิชัยสงครามนี้ อันมีความหมายว่า "ดวงชนะศึก"
แต่ดั้งเดิมมานิยมกันว่าเป็นของสูงที่คู่ควร
แต่เฉพาะพระมหากษัตริย์เท่านั้น
และเป็นที่รู้จักกันดีแต่เฉพาะ "วงใน"
คือในกรมโหรหลวงและในพระบรมมหาราชวังเท่านั้น
-----------------
แต่เดิมที ดวงพิชัยสงครามนี้ ท่านว่าหาได้มีชื่อดัง
ที่เรียกขานกันเช่นในปัจจุบันนี้ไม่ ที่มีชื่อเรียกว่า
ดวงพิชัยสงคราม มาจากตำนานดังกล่าว
-----------------
หากดูกันเผิน ๆ จะเห็นว่ามีลักษณะเหมือนยันต์อันศักดิ์สิทธ์ทางไสยศาสตร์
เนื่องจากพฤฒาโหราจารย์ผู้แตกฉานเชี่ยวชาญในศาสตร์ ทั้งสามคือ
พุทธศาสตร์ ไสยศาสตร์ และ โหราศาสตร์ ได้กำหนดรูปดวงชะตานี้ขึ้น
โดยการนำเอาพุทธมนต์มาชัยเป็นพระคาถากำบังดวงชะตาไว้ ๘ ทิศ
และชักรูปมหายันต์ไว้ภายใน สำหรับบรรจุพระเคราะห์ทั้งหลาย
ที่คำนวณขึ้น ตามสูตรพระคัมภีร์สุริยาตร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น